Be Inspired
ตัวหอมจนต้องเหลียว! 6 วิธีดับกลิ่นตัวให้ผิวหอมสะอาดในวันร้อนจัด
Apr 06,2021
อากาศร้อนเบอร์นี้แม้คุณจะอาบน้ำ-สระผมวันละ 2-3 เวลา ประโคมน้ำหอมและบอดี้สเปรย์ทั่วเรือนร่าง แต่ทำไมกลิ่นกายหรือ ‘กลิ่นตัว’ ยังรุนแรงพร้อมทำลายความมั่นใจจนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ เรามี 6 วิธีสยบกลิ่นตัวด้วยพลังของพืชออร์แกนิคหายากจากทั่วโลก พร้อมเทคนิคง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้มาฝากกันค่ะ นอกจากจะช่วยให้คุณตัวหอมจนคนต้องมองเหลียวหลัง แล้วคุณยังได้บำรุงผิวและเส้นผมให้หอมสะอาด ผิวชุ่มชื่น กระจ่างใส และผิวหอมสดชื่นตลอดวัน ไม่หวั่นแม้วันอากาศร้อนจัดหรือลุยกิจกรรมกลางแจ้ง
‘กลิ่นตัว’ VS ‘กลิ่นเหงื่อ’ ความเหมือนที่แตกต่าง
หลายคนอาจจะสับสนระหว่าง ‘กลิ่นตัว’ กับ ‘กลิ่นเหงื่อ’ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ในทางการแพทย์แล้วทั้งสองกลิ่นมีสาเหตุแตกต่างกัน โดยกลิ่นตัวจะมาจากต่อมกลิ่น (Apocrine Gland) พบมากบริเวณรักแร้และจุดซ่อนเร้น ต่อมกลิ่นทำหน้าที่สร้างกลิ่นเฉพาะตัวของคนเราและหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมา ประกอบด้วย กรดไขมันหลายชนิด มีลักษณะเหลว ข้น ไม่มีกลิ่น เมื่อสัมผัสกับแบคทีเรียภายนอกจะทำให้เกิดกลิ่นของแอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น กลิ่นตัวอาจจะเกิดร่วมกับภาวะเหงื่อมากหรือไม่มีเหงื่อเลยก็ได้ เพราะปกติเหงื่อที่หลั่งจากต่อมเหงื่อจะไม่มีกลิ่น นอกจากนี้กลิ่นตัวยังสัมพันธ์กับอาหาร เพศ สุขภาพ ยาบางชนิด ฯลฯ อย่างไรก็ดี กลิ่นตัวนี่แหละที่ทำให้คนอื่นจดจำคุณได้ และอาจสร้างความพึงพอใจให้บางคนหลงเสน่ห์คุณเช่นกัน
ส่วนกลิ่นเหงื่อหลัก ๆ จะมาจากต่อมเหงื่อสองชนิดคือ ‘ต่อมเอกไครน์’ (Eccrine Gland) เป็นต่อมเหงื่อบนผิวหนังที่จะผลิตเหงื่อ เมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเพื่อช่วยคลายความร้อน และ ‘ต่อมอะโพไครน์’ (Apocrine Gland) เป็นต่อมเหงื่อบริเวณที่มีขนขึ้นมาก ๆ เช่น รักแร้ ขาหนีบ จะผลิตของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม เมื่อร่างกายเกิดความเครียด ความร้อน หรือสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง โดยแบคทีเรียจะทำหน้าที่ย่อยสลายเกลือที่อยู่ในเหงื่อเป็นกรด ยิ่งในวันที่เหงื่อออกมากจะทำให้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือ ‘Fishy Odor’ นั่นเอง นอกจากนี้ อาหารรสจัด น้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน การกินของมันและของทอด รวมถึงการเลือกใช้โรลออนก็ส่งผลให้กลิ่นแรงมากขึ้น
สัญญาณอันตรายที่ร่างกายสื่อสารผ่าน ‘กลิ่นตัว’
หากคุณกำลังกลุ้มใจกับกลิ่นตัวแรงชนิดที่น้ำหอมและโรลออนก็เอาไม่อยู่ คำอธิบายของ Dr. Christopher Dietz ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ท้องถิ่นแห่ง MedExpress อาจช่วยให้ค้นพบสาเหตุและแนวทางรับมือกลิ่นตัวได้อย่างเหมาะสม ผ่าน 6สัญญาณอันตรายที่ร่างกายพยายามบอกคุณเหล่านี้
ความเครียด: ความเครียดทำให้เรามีเหงื่อและกลิ่นตัวมากขึ้น เพราะร่างกายจะขับกลิ่นตัว (Apocrine Gland) ในภาวะที่เครียดหรือหงุดหงิด ทำให้เหงื่อออกมากและเป็นอาหารของแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง หากคุณมีกลิ่นตัวแรงขึ้นหลังประชุมเครียดหรือช่วงที่งานหนักมาก นั่นแปลว่าร่างกายกำลังตอบสนองต่อระดับความเครียดที่สูงขึ้น
เบาหวานหรือปัญหาเกี่ยวกับตับและไต: “ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ อาจส่งผลต่อกลิ่นตัวของคนเรา” Dr. Dietz กล่าว "ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะมีปัญหาการสลายกลูโคสในร่างกาย คุณอาจสังเกตเห็นว่าลมหายใจของผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีกลิ่น เนื่องจากการสะสมของกลูโคส" เช่นเดียวกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตและตับที่ทำให้ร่างกายผลิตสารบางอย่างขึ้นมา ทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่แตกต่างไปจากเดิม
ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ: การศึกษาในปี 2554 พบว่า 1 ใน 3 ของผู้มีกลิ่นตัวที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการเผาผลาญ ซึ่งเกิดจากการขาดเอนไซม์ย่อยสลายสารประกอบที่ชื่อ ‘trimethyamine’ ที่ขับออกมาทางรูขุมขน ทำให้มีกลิ่นตัวแรงกว่าปกติ
ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ: คนที่มีปัญหาความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ จะทำให้คุณมีเหงื่อออกมากขึ้นและมีกลิ่นตัวแรงเช่นกัน ต่อมไทรอยด์ส่งผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย จึงทำให้หัวใจเต้นเร็ว นอนหลับไม่สนิท และมีเหงื่อ หากคุณมีเหงื่อมากตอนกลางคืนอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ มีปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ หรือกระดูก
ฮอร์โมนแปรปรวน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เหงื่อออกเพิ่มขึ้น “ผู้หญิงที่ฮอร์โมนแปรปรวนมักจะส่งผลต่อกลิ่นตัวเช่นกัน” Dr. Dietz กล่าวและเสริมด้วยว่า "เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงช่วงวัยหมดประจำเดือน อุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้นและขับเหงื่อออกมามากขึ้น ควบคู่กับอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน ทำให้ผู้หญิงบางคนมีกลิ่นตัวแรงขึ้น”
รับประทานอาหารที่มีกำมะถันสูง: อาหารที่มีกำมะถันสูงจะทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น เช่น กระเทียม หัวหอม สะตอ หน่อไม้ฝรั่ง ชะอม ใบยี่หร่า กะหล่ำ บร็อกโคลี และเนื้อแดง จะทำให้อาหารตกค้างในระบบทางเดินอาหารนานขึ้น รวมถึงสมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ที่กลไกการขับสารพิษของร่างกายทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น
6 วิธีสยบกลิ่นกาย พร้อมอวดผิวเปล่งประกายได้อย่างมั่นใจ
หากคุณมีปัญหากลิ่นตัวแรงก็ไม่ต้องกังวลเกินไปค่ะ ลองค้นหาสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวและแนวทางในการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณตัวหอมตลอดวัน เรามี 6 วิธีสยบกลิ่นกายให้หอม สะอาด สดชื่น พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นในเวลาเดียวกัน
1.บูสต์ความสดชื่นให้ผิวกายหอมสะอาด อากาศร้อนอบอ้าวแบบเมืองไทย การได้อาบน้ำให้ผิวกายสะอาดสดชื่นจะช่วยชำระคราบเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกบนผิวได้อย่างดี หากคุณกังวลเรื่องกลิ่นตัวแรงแนะนำให้ทำความสะอาดผิวใต้วงแขนและจุดซ่อนเร้นให้สะอาด เพื่อช่วยลดประชากรแบคทีเรียบนผิวหนังและช่วยให้ผิกายชุ่มชื่นขึ้น แต่ไม่ควรเลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำที่แรงเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
Our Recommended: ทำความสะอาดผิวกายพร้อมให้คุณหลับสบาย-คลายร้อนด้วย New! Beauty Sleep Shower Oil ทันทีที่เนื้อออยล์สัมผัสน้ำจะเปลี่ยนเป็นฟองครีมนุ่มละมุน ช่วยคืนความนุ่มลื่นดุจซาตินให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ล็อคความชุ่มชื่นในผิวนาน 24 ชั่วโมง >> https://bit.ly/3u1ma7s และ New! Wild Rose Shower Oil บูสต์ความกระจ่างใสให้ผิวคล้ำหมอง พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของ Wild Rose ออร์แกนิคผสานพลังกับอัลมอนด์ออยล์ ให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และเปล่งประกาย
2. สวมเสื้อผ้าบางเบาและไม่รัดจนเกินไป เสื้อผ้าหนาและรัดจนเกินไปจะทำให้เหงื่อออกมากขึ้น ควรเลือกเสื้อผ้าที่บางเบาและระบายเหงื่อได้ดี รวมถึงชุดชั้นในที่ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวกสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไปจะทำให้เหงื่อออกมากขึ้น สำหรับคนที่เหงื่อออกมากหรือชอบออกกำลังกายก่อนไปทำงาน ควรพกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและเส้นผมไปด้วย ส่วนคนที่มีกลิ่นเท้าแนะนำให้หาถุงเท้าใหม่ไปเปลี่ยนเช่นกัน
Our Recommended: พกพา Revive Shower Gel Collection ทำความสะอาดผิวกายด้วย 6 สูตร 6 กลิ่นหอมที่ตอบโจทย์ทุกสภาพผิวได้อย่างลงตัว พร้อมคืนความสะอาดให้ผิวสดชื่น กระจ่างใส และเรียบเนียน พร้อมให้กลิ่นกายหอมสะอาดกรุ่นตลอดวัน เปี่ยมคุณค่าการบำรุงผิวล้ำลึกด้วยสารสกัดจากพืชออร์แกนิคล้ำค่าจากทั่วโลก >> https://bit.ly/39l7AQ7
3. ทำความสะอาดผิวใต้วงแขน เพราะผิวบริเวณใต้วงแขนมีต่อมกลิ่น (Apocrine Gland) เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดกลิ่นตัวหากคุณทำความสะอาดไม่ดี การเล็มหรือกำจัดขนใต้วงแขนจะช่วยให้เหงื่อระเหยไวขึ้น แล้วยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ดีระดับหนึ่ง สำคัญสุดควรดูแลผิวใต้วงแขนให้แห้งอยู่เสมอเพื่อช่วยลดกลิ่นตัว
4. เลี่ยงอาหารกลิ่นแรงและรสจัด อาหารที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ ไขมัน และสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงหรือมีซัลเฟอร์สูง เช่น หัวหอม กระเทียม ฯลฯ รวมถึงบล็อกโคลี่ กระหล่ำ ขมิ้น ผงกระหรี่ แอลกอฮอล์ และเนื้อแดง สามารถแทรกซึมออกมาทางรูขุมขน และทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นได้ แนะนำให้รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและเน้นผักสดให้มากขึ้น ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญให้ดีขึ้นด้วย
5. ผลไม้คลายร้อนลดกลิ่นกาย นอกจากจะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังช่วยลดกลิ่นตัวได้ด้วย เช่น สตรอว์เบอร์รี่ เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ ฯลฯ ผลไม้ตระกูลนี้มีวิตามินซีสูงจึงช่วยระงับกลิ่นกายและกลิ่นปากได้เช่นกัน ทั้งยังมีไฟเบอร์สูงช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายช่วยลดสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวได้ดี รวมถึงผลไม้ตระกูลส้มก็ดีงามต่อการลดกลิ่นกายอีกด้วย
6. ผสมเอสเซนเชี่ยลออยล์ลงในโลชั่นบำรุงผิว รู้มั้ยว่า เอสเซนเชี่ยลออยล์จากพืชออร์แกนิค มีพลังบำบัดที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงผิว และช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ Frankincense, Lavender, Rose Otto, Lime, Orange โดยเฉพาะที่ Neal’s Yard Remedies มีเอสเซนเชี่ยลออยล์ออร์แกนิคหายากจากทั่วโลกให้เลือกมากถึง 52 กลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังสามารถผสมเอสเซนเชี่ยลออยล์ลงใน Diffuser ช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่นผ่อนคลายให้ทุกมุมของบ้านได้ด้วย
Our Recommended: Neal’s Yard Remedies มีคอลเล็คชั่นพิเศษที่ชื่อ ‘Create Your Own Signature Scent’ ให้คุณรังสรรค์กลิ่นหอมสำหรับ Hair & Body Wash, Bath Oil และ Face & Body Lotion ตอบโจทย์ทุกรสนิยมและตัวตนของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมบูสต์ประสิทธิภาพให้ครีมอาบน้ำ แชมพู และโลชั่นบำรุงผิว ช่วยบำรุงผิวและเส้นผมให้สุขภาพดีจากภายใน อวดผิวสวย เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และเปล่งประกาย ที่มีกลิ่นหอมเสริมคาแร็คเตอร์ของคุณให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับคนที่สนใจอยากปรุงกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เหมาะกับคุณ แนะนำให้แวะไปสนุกได้ที่เคาน์เตอร์ Neal’s Yard Remedies ผู้นำผลิตภัณฑ์พรีเมียมออร์แกนิคอันดับหนึ่งนำเข้าจากอังกฤษ ภายในบิวตี้ฮอลล์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ได้แก่ สยาม พารากอน เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และเดอะมอลล์ บางแค โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความงามของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างดีที่สุดเสมอ หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ >> https://bit.ly/2PEDiAU